sport

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บทวิคราะห์เชลซีคือแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก

       จบไปแล้วสำหรับการแข่งขันฟุตบอลรายการยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก นัดชิงชนะเลิศระหว่าง เชลซีกับบาเยิร์นมิวนิค ชัยชนะเป็นของสิงโตน้ำเงินคราม เชลซีแห่งเกาะอังกฤษ
      เกมส์เมื่อวันที่ 19  พ.ค. ที่ผ่านมาเป็นโอกาสของเสือใต้ บาเยิร์นมิวนิค มากกว่า เกือบได้ประตูหลายครั้ง ทั้งจุดโทษที่ควรได้ประตูจากอาเย็น ร็อบเบ็น แต่ก็พลาดไปหมด ร็อบเบ็นคงฝันร้ายไปอีกหลายคืน
       การเล่นในครึ่งแรกเสมอกันแบบโนสกอร์ 0 : 0 แต่เป็นเกมส์     ของบาเยิร์นมากกว่า
      ครึ่งหลัง บาเยิร์นทำเกมส์ขึ้นมางามๆหลายครั้ง แต่เชลซีก็ตั้งรับไว้อย่างเหนียวแน่น ไมพลาดเสียประตูง่ายๆ และหาโอกาสทำเกมส์รุกเหมาะหลายครั้ง
     แต่แล้วในนาทที่ 83 ความพยายามของบาเยิร์นก็เป็นผล เมื่อโทนี่ โคลส โยนบอลให้ มุลเลอร์ ตัวกลั่นของทีมโหม่งลงพื้น ทำให้ผู้รักษาประตูเชลซี เสียจังหวะ ฟุตบอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทำให้บาเยิร์น นำ 1:0
      ต่อมา โค้ชบาเยิร์น จู๊ปป์ ไฮเกส เปลี่ยนเอา มูลเลอร์ออก เสริมเกมส์รับลงไปแทนเพื่อหวังยันประตูนำ1:0 เอาไว้ให้อยู่
      แต่นาทีที่ 88 เชลซีฮึดตีเสมอได้ จากการโยนลูกเตะมุมของ ฮวน มาต้า มาเข้าหัวของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา กองหน้าตัวความหวัง โหม่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ตีเสมอเป็น 1:1 ก่อนหมดเวลาแค่ สองนาที  หมดเวลา เก้าสิบนาทีทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกัน 1:1จึงต้องต่อเวลาอีก 30 นาที
     ช่วงต่อเวลา ในครึ่งแรก ดร็อกบา ไปแซะข้างหลัง ฟร้องริเบอรี่ ล้มลงในเขตโทษ กรรมการป่าให้เป็นจุดโทษ อาเย็น ร็อบเบน รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงไปให้ ปีเตอร์เช็ค ผู้รักษาประตูเชลซีรับได้ เชลซีจึงยันเสมอเอาไว้ได้แบเจียนอยู่เจียนไปอย่างโชคช่วยอย่างยิ่ง จบช่วงต่อเวลาครึ่งแรก เสมอกัน 1:1
         ในการต่อเวลาในครึ่งหลังเกมส์ผลัดกันรุกรับ แต่บาเยิร์นบุกได้น่ากลัวกว่า แต่จบสกอร์ไม่ได้จึงเสมอกันไป
        มาถึงเวลาดวลจุดโทษทั้งสองทีมมีโอกาสเท่ากัน บาเยิร์นยิงเข้า 3 เชลซียิงเข้า 4 เชลจึงคว้าแชมป์ไปได้เป็นครังแรกในประวัติศาสตร์สโมสร


      ข้อวิคราะห์วิจารณ์


       ผมได้วิเคราะห์ไว้ในทความที่แล้วว่า เชลซีทีมนี้ไม่ธรรมดา มีเกมส์รับที่เหนียวแน่น ผู้เล่นมีประสบการณ์ในการเล่นรายการนี้สูง จึงไม่ง่ายที่บาเยิร์นจะเอาชนะได้ง่ายๆอย่างที่หลายๆคนคาดการณ์ไว้ แม้กองหน้าบาเยิร์นจะมีความอันตรายในทุกจังหวะก็ตาม แต่โค้ชเชลซีมองเห็นว่า การสกัดกั้นไม่ให้กองหน้ากองกลางของเสือใต้ทำเกมส์ได้ถนัด น่าจะเป็นผลดีต่อทีม จึงแพ็คหลัง กลางแน่นปึกรอจังหวะโต้กลับเหมาะๆซักครั้งแล้วได้ประตูก็เพียงพอแล้ว แล้วโชคก็เข้าข้างพวกเขาที่ไม่เสียประตูจจากลูกจุดโทษ
      เกมส์นี้ ดิมัตติโอ โค้ชทีมเชลซีอ่านเกมส์ได้ขาดทีเดียว ทำให้หลัง กลาง แน่น รอจังหวะโต้กลับโดยวางตัวทีเด็ดอย่าง ดร็อกบาไว้เป็นตัวอันตราย คอยป่วนแดนหลังของเสือไต้ เหมือนที่เคยทำได้กับทีมบาร์เซโลนา มาแล้ว 
      ขณะเดียวกันก็เป็นขาลงของบาเยิร์น มิวนิค จริงๆ พลาดแชมป์ทั้ง สามถ้วย ตั้งแต่ เดเอฟเบโพคาล บุนเดสลีกา และยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก
 ผมได้วิเคราะห์เอาไว้ในบทความก่อนว่า ช่วงนี้เป็นขาขึ้นของเชลซี เริ่มตั้งแต่ได้แชมป์เอฟเอคัพ และเชลซีอาจคว้าดับเบิ้ลแชมป์ก็ได้ ขณะที่บาเยิร์นมิวนิคเป็นขาลง ถ้าไม่แก้ไข ปลุกขวัญกำลังลูกทีมแล้วละก็คงยากที่จะคว้าแชมป์ได้
    อีกประการหนึ่งที่จุ๊ปป์ ไฮย์เกส โค้ชทีมบาเยิร์น พลาดไปตรงที่เปลี่ยน ตัว มุลเลอร์ออกเร็วเกินไปเพราะเหลือเวลาอีกตั้ง 7 - 8 นาที จะหมดเวลา หลังเขาทำประตูได้ พอเรูปเกมส์ออกมาเสมอกัน 1:1 ในช่วงท้ายเกมส์ จึงไม่มีตัวอันตรายท่ี่จะทำเกมส์รุกได้น่ากลัว ในช่วงต่อเวลาพิเศษที่เหลืออีก 30 นาที 
   ขณะเดียวกัน ชัยชนะของเชลซี จึงเหมาะสมแล้วเพราะพวกเขามีหัวใจนักสู้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ตราบเท่าที่กรรมการไม่เป่านกหวีดหมดเวลา ความโดดเด่นของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา การวางหมากของ ดิมัตติโอ และความโชคดีที่ปีเตอร์เชค เชพจุดโทษในช่วงต่อเวลาครึ่งแรกเอาไว้ได้ ก็เป็นจุดเปลี่ยนของเกมส์ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เชลซีคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกสม้ยแรกเอาไว้ได้


petch viengping

 www.teenee.com
       



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น