England vs Italy 0-0 PENALTIES (2-4) All Goals 24.06.2012 - Euro 2012

สรุปตารางคะแนนฟุตบอลยูโร 2012 |ตารางคะแนน|

กลุ่ม A

LP		ทีม	P	W	D	L	F	A	+/-	PSt
1		สาธารณรัฐเช็ก	3	2	0	1	4	5	-1	6
2		กรีซ	3	1	1	1	3	3	0	4
3		รัสเซีย	3	1	1	1	5	3	2	4
4		โปแลนด์	3	0	2	1	2	3	-1	2

ดูรายละเอียดกลุ่ม

กลุ่ม B

LP		ทีม	P	W	D	L	F	A	+/-	PSt
1		เยอรมัน	3	3	0	0	5	2	3	9
2		โปรตุเกส	3	2	0	1	5	4	1	6
3		เดนมาร์ก	3	1	0	2	4	5	-1	3
4		ฮอลแลนด์	3	0	0	3	2	5	-3	0

ดูรายละเอียดกลุ่ม

กลุ่ม C

LP		ทีม	P	W	D	L	F	A	+/-	PSt
1		สเปน	3	2	1	0	6	1	5	7
2		อิตาลี	3	1	2	0	4	2	2	5
3		โครเอเชีย	3	1	1	1	4	3	1	4
4		ไอร์แลนด์	3	0	0	3	1	7	-6	0

ดูรายละเอียดกลุ่ม

กลุ่ม D

LP		ทีม	P	W	D	L	F	A	+/-	PSt
1		ฝรั่งเศส	2	1	1	0	3	1	2	4
2		อังกฤษ	2	1	1	0	4	3	1	4
3		ยูเครน	2	1	0	1	2	3	-1	3
4		สวีเดน	2	0	0	2	3	5	-2	0

ดูรายละเอียดกลุ่ม

LP - ลำดับที่     TEAM - ชื่อทีม     P - แข่ง     w - ชนะ     D - เสมอ     L - แพ้     F - ได้     A - เสีย     GD - +/-     PTs - คะแนน

หมายเหตุ

• ทีมที่ได้ไปเล่นรอบถัดไปคือทีมอันดับ 1 และอันดับ 2 ของกลุ่ม
• 
  

ขอบคุณข้อมูลจากsiamsport

ฟุตบอลยูโร อังกฤษ vs สวีเดนใครจะชน

                    ฟุตบอลยูโร อังกฤษ vs สวีเดนใครจะชนะ

 ฟุตบอล ยูโร 2012
รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กลุ่มดี
วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน 2555
สวีเดน        -       อังกฤษเวลา : 01.45 น.     ถ่ายทอดสด : ช่อง 3


ความน่าจะเป็นของเกม
สวีเดนคงไม่มีทางเลือกอื่นมากนักต้องเก็บแต้มให้ได้ใน
นัดนี้ เพื่อต่อโอกาสเข้ารอบถ้าแพ้ตกรอบแน่นอน


ดังนั้นสวีเดนต้องบุกหาโอกาสเหมะๆยิงประตูให้ได้และต้องหวังพึ่งตัวเก๋าอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นตัวช่วยประคองเกมคอยทะลุทะลวงเแดนหลังอังกฤษ 
สำหรับอังกฤษชุดนี้เล่นใช้ได้ นัดแรกเสมอฝรั่งเศสมา 1 : 1 แบบยิงนำไปก่อนด้วยซ้ำ เกมนี้ก็ต้องหวังเก็บสามแต้มเช่นกัน อาจต้องหวัง


พึ่งดาวรุ่งอย่าง แดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้าจากแมนยู เป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้า เจอร์ราดทำเกมในแดนกลางคู่กับสกอตต์ พาร์เกอร์ เกมการเล่นน่าจะดีขึ้นกว่านัดที่แล้ว เกมบุกของอังกฤษน่าจะอันตรายไม่น้อยตามสไตล์บอลอังกฤษคือ เล่นบอลเร็ว โยนบอลแม่น ให้กองหน้าพังประตู 


สรุปเกมนี้ อังกฤษไม่แพ้ อาจจะชนะ หรือออกเสมอกันไป

        สวีเดน ออกสตาร์ทยูโร 2012 อย่างน่าผิดหวัง แพ้เจ้าภาพร่วม ยูเครน 1-2 ทำให้ต้องฮึดเก็บแต้มให้ได้ในนัดนี้

        เอริค ฮัมเรน กุนซือสวีเดน มีสภาพทีมในระนาบเดิม แม้ว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงกัปตันทีมจากเอซี มิลาน จะบาดเจ็บเล็กน้อยมาจากนัดแรก แต่ก็มีการยืนยันแล้วว่า อิบราฮิโมวิช จะพร้อมลงล่าตาข่าย อังกฤษ อย่างแน่นอน

        แดนหน้า โยฮัน เอลมานเดอร์ กองหน้ากาลาตาซาราย ก็ฟิตสมบูรณ์พร้อมแล้วเช่นกัน หลังสลัดอาการเจ็บกระดูกเท้าแตก ลงเล่นสำรองได้ในเกมกับ ยูเครน โดยเกือบซัดประตูได้ และเป็นที่คาดว่า น่าจะถูกส่งลงตัวจริงเกมนี้

        ที่เหลือไม่น่าเปลี่ยนแปลงจากเกมแรก แดนหลังมีคีย์แมนอย่าง โอลอฟ เมลล์เบิร์ก เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 34 ปีของโอลิมเปียกอส ที่รับใช้ชาติมาแล้ว 115 เกม นำทัพ ยืนเซนเตอร์คู่ อันเดรียส กรันควิสต์

        ตรงกลางวาง คิม คัลล์สตรอม ดูแลเกมกับ ราสมุส เอล์ม ขยับขึ้นไปเป็นแผงรุก ที่จะถอย ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ลงมาเดินเครื่องร่วมกับ เซบาสเตียน ลาร์สสัน และ โอล่า ตอยโวเน่น ขณะที่ โยฮัน เอลมานเดอร์ ยืนหอกเป้า

        ทางฝั่ง สิงโตคำราม ของกุนซือคนใหม่ รอย ฮ็อดจ์สัน ออกสตาร์ทเกมแรกแบบฝืดๆ แต่ก็ยันเจ๊า ฝรั่งเศส 1-1 เท่ากับในการคุมทีมของ ฮ็อดจ์สัน 3 นัดแรกรวมเกมอุ่นเครื่อง ยังแพ้ใครไม่เป็น

        สภาพทีม ฮ็อดจ์สัน ยังคงจะพลาดใช้งาน เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวหลักจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ติดโทษแบนนัดที่ 2 จะกลับมาเล่นได้ในเกมสุดท้ายของรอบนี้ กับ ยูเครน

        การจัดเกมรุก แดนนี่ เวลเบ็ค ดาวรุ่งแมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะได้ลงตัวจริงเป็นนัดที่ 2 ก่อน แอนดี้ แคร์โรลล์ หัวหอกลิเวอร์พูล

        ในราย เจอร์เมน เดโฟ กองหน้าท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เดินทางกลับมาสมทบทีมแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ หลังจากกลับไปร่วมงานศพบิดาที่อังกฤษ แต่ก็มีตำแหน่งเป็นตัวสำรองตามเดิมเท่านั้น

        มาร์ติน เคลลี่ แบ็กดาวรุ่งลิเวอร์พูล เป็นคนเดียวที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับการจัดทีมของ ฮ็อดจ์สัน

        ส่วน สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมจากลิเวอร์พูล, สกอตต์ พาร์เกอร์ มิดฟิลด์ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รวมถึง แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายเชลซี สภาพร่างกายอาจไม่ถึงระดับ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มทั้งหมด  แต่ก็จะสามารถลงสนามได้ตามปกติ

        ระบบการเล่น 4-4-1-1 แผงหลังตัวเลือกค่อนข้างจำกัด ยึดแบฌกโฟร์เป็น เกล็น จอห์นสัน, จอห์น เทอร์รี่, โจลีออน เลสค็อตต์ และ แอชลี่ย์ โคล

        แดนกลาง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม เป็นตัวกลางร่วมกับ สกอตต์ พาร์เกอร์ โดยมี เจมส์ มิลเนอร์ กับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เป็นสองตัวริมเส้น 

        ขยับขึ้นหน้า วาง แอชลี่ย์ ยัง เป็นหน้าต่ำ ทำเกมสนับสนุนหน้าเป้าเพื่อนร่วมสโมสร แดนนี่ เวลเบ็ค

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        สวีเดน : อันเดรียส์ อิซัคส์สัน - มิคาเอล ลุสติก, โอลอฟ เมลล์เบิร์ก, อันเดรียส กรันควิสต์, มาร์ติน โอลส์สัน - คิม คัลล์สตรอม, ราสมุส เอล์ม - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, โอล่า ตอยโวเน่น - โยฮัน เอลมานเดอร์

        อังกฤษ : โจ ฮาร์ท - เกล็น จอห์นสัน, จอห์น เทอร์รี่, โจลีออน เลสค็อตต์, แอชลี่ย์ โคล - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, สกอตต์ พาร์เกอร์, เจมส์ มิลเนอร์ - แอชลี่ย์ ยัง - แดนนี่ เวลเบ็ค

       

        ผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

อันดับ ฟีฟ่า
- สวีเดน อันดับ 17
- อังกฤษ อันดับ 6

สถิติที่เคยพบกันของทั้งคู่
- 16/11/11 อังกฤษ  1 - 0  สวีเดน   กระชับมิตร
- 21/06/06 สวีเดน  2 - 2  อังกฤษ  ฟุตบอลโลก 2006
- 01/04/04 สวีเดน   1 - 0  อังกฤษ  กระชับมิตร
- 02/06/02 อังกฤษ  1 - 1  สวีเดน   ฟุตบอลโลก 2002
- 10/11/01 อังกฤษ  1 - 1 สวีเดน   กระชับมิตร
- 05/06/99 อังกฤษ  0 - 0  สวีเดน   ยูโรรอบคัดเลือก
- 05/09/98 สวีเดน  2 - 1  อังกฤษ  ยูโรรอบคัดเลือก

ผลงาน10นัดหลังสุด
สวีเดน
- 07/09/11ชนะ ซานมารีโน่ 5-0 (เยือน)ยูโรรอบคัดเลือก
- 07/10/11ชนะ ฟินแลนด์ 2-1(เยือน)ยูโรรอบคัดเลือก
- 12/10/11ชนะ ฮอลแลนด์ 3 - 2 (เหย้า)ยูโรรอบคัดเลือก
- 12/11/11แพ้ เดนมาร์ก 0-2 (เยือน)กระชับมิตร
- 16/11/11 แพ้ อังกฤษ 0-1(เยือน)กระชับมิตร
- 18/01/12 ชนะ บาห์เรน 2-0 (เยือน)กระชับมิตร
- 01/03/12 ชนะ โครเอเชีย 3-1 (เยือน)กระชับมิตร
- 31/05/12 ชนะ ไอซ์แลนด์ 3 - 2 (เหย้า)กระชับมิตร
- 06/06/12 ชนะ  เซอร์เบีย 2 - 1 (เหย้า)กระชับมิตร
- 11/06/12 แพ้ ยูเครน 1-2 (เยือน) ยูโร 2012

อังกฤษ
- 04/06/11 เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 2-2 (เหย้า)  ยูโรรอบคัดเลือก
- 03/09/11 ชนะ บัลแกเรีย 3-0 (เยือน)  ยูโรรอบคัดเลือก
- 07/09/11 ชนะ เวลส์ 1-0 (เหย้า)  ยูโรรอบคัดเลือก
- 08/10/11 เสมอ มอนเตเนโกร 2-2 (เยือน)  ยูโรรอบคัดเลือก
- 13/11/11 ชนะ สเปน 1-0 (เหย้า) กระชับมิตร
- 16/11/11 ชนะ สวีเดน 1-0 (เหย้า)กระชับมิตร
- 01/03/12 แพ้ ฮอลแลนด์ 2-3 (เหย้า)  กระชับมิตร
- 27/05/12 ชนะ นอร์เวย์ 1-0 (เยือน)  กระชับมิตร
- 02/06/12 ชนะ เบลเยี่ยม 1-0 (เหย้า) กระชับมิตร
- 11/06/12 เสมอ ฝรั่งเศส 1-1 (สนามกลาง) ยูโร 2012

เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ
- ทั้งสองทีมเจอกันมาแล้วทั้งหมด 21 นัด สวีเดน ชนะ 6 อังกฤษ ชนะ 6 เสมอ 9
- สวีเดน ไม่เคยแพ้ อังกฤษ ในการเจอกันเกมฟุตบอลยูโร โดยชนะไป 2 เสมอ 1
- สวีเดน ไม่เคยแพ้เกมอย่างเป็นทางการพบ อังกฤษ โดยชนะไป 2 เสมอ 5 ซึ่งการเจอกัน 3 ครั้งหลังเสมอเรียบ
- อังกฤษ ชนะ สวีเดน 1-0 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อปี 2011 เป็นการชนะ สวีเดน ครั้งแรกในรอบ 43 ปี
- สวีเดน ชนะ อังกฤษ 2-1 ในยูโร 1992 ที่ สวีเดน นั้นเป็นเจ้าภาพ
- ทั้งสองทีมเจอกันในฟุตบอลโลก 2002 และ 2006 ผลลงเอยด้วยการเจ๊ากันทั้งหมด

สรุปอันดับบดาวซัลโวยูโร 2012

อัดับ	ชื่อ	ทีม	ประตู
1	มาริโอ มันด์ซูคิช	โครเอเชีย	3
2	มาริโอ โกเมซ	เยอรมัน	3
3	อลัน ซาโกเยฟ	รัสเซีย	3
4	เชส ฟาเบรกาส	สเปน	2
5	วาซลาฟ ปิลาร์	สาธารณรัฐเช็ก	2
6	อังเดร เชฟเชนโก้	ยูเครน	2
7	นิคลาส เบนท์เนอร์	เดนมาร์ก	2
8	เฟร์นานโด ตอร์เรส	สเปน	2
9	ซิลแวสตร์ บาเลร่า	โปรตุเกส	1
10	ยาคุบ บลาสซิคอฟสกี้	โปแลนด์	1
11	ปีเตอร์ ยิราเซ็ค	สาธารณรัฐเช็ก	1
12	ธีโอฟานิส เกคัส	กรีซ	1
13	ซลาตัน อิบราฮิโมวิช	สวีเดน	1
14	โจเลียน เลสค็อตต์	อังกฤษ	1
15	ซามีร์ นาสรี่	ฝรั่งเศส	1
16	ฌอน เซนต์ เลดเจอร์	ไอร์แลนด์	1
17	นิคิกา เยลาวิช	โครเอเชีย	1
18	อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่	อิตาลี	1
19	โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้	โปแลนด์	1
20	ดิมิตริส ซัลปินจิดิส	กรีซ	1

เลขเด็ดอ.ดวงดีมหาลาภ 16 มิย .55

เลขเด็ดอ.ดวงดีมหาลาภ 16 มิย .55

บนล่าง

11 61 71 81 91 14 41 48 40 24

เด่นสุดๆ 14 41

วิเคราะห์ ฝรั่งเศส vs อังกฤษ ยูเครน vs สวีเดน

วิเคราะห์ ฟุตบอล ฝรั่งเศส vs อังกฤษ ยูเครน vs สวีเดน

 

 

ศึกยูโร 2012 กลุ่มดี

ฝรั่งเศส-อังกฤษ (แข่ง 23.00 น.)

สนาม : ดอนบาสส์ อารีนา (โดเนตสค์)
ผู้ตัดสิน : นิโคลา ริซโซลี (อิตาลี)
สถิติที่เคยพบกัน : 28 ครั้ง ฝรั่งเศส ชนะ 8 อังกฤษ ชนะ 16 เสมอ 4

ผลงาน 3 นัดหลังสุด :
ฝรั่งเศส ชนะ เอสโตเนีย 4-0, ชนะ เซอร์เบีย 2-0, ชนะ ไอซ์แลนด์ 3-2
อังกฤษ ชนะ เบลเยียม 1-0, ชนะ นอร์เวย์ 1-0, แพ้ ฮอลแลนด์ 2-3

ทัพตราไก่ ฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของโค้ช "โลรองต์ บลองก์" ชุดนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะไม่แพ้ใครติดต่อกันทุกรายการ 21 นัด เข้าไปแล้ว มาถึงนัดที่ 22 เป็นเกมสำคัญที่ต้องชนะเพื่อรับประกันต่อการเข้ารอบแบบนี้ น่าจะใส่กันเต็มพิกัด นัดนี้ "คาริม เบนเซมา" ดาวยิงฟอร์มแรงที่มีอาการเจ็บหลังเล็กน้อย น่าจะลงตัวจริง เช่นเดียวกับ "ฟรองค์ ริเบรี" จอมทัพของทีม ที่จังหวะกระชากลากเลื้อยน่าจะป่วนแนวรับคู่แข่งพอสมควร 


ทัพสิงโตคำราม อังกฤษ ของ "รอย ฮอดจ์สัน" ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก หลังจากมีนักเตะตัวหลักต้องถอนตัวเพราะเจ็บไปหลายคน ทำให้ถูกมองว่า นักเตะที่ถูกเลือกไปร่วมทีมนั้น บางคนชั้นเชิงและประสบการณ์ในเกมระดับนี้ยังไม่ถึง แต่นัดนี้ทีมต้องการชัยชนะเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจ ปู่รอยอาจส่ง "แอชลีย์ ยัง" และ "แดนนี เวลเบ็ค" 2 แข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเป็นกองหน้าคู่ ส่วนปีก 2 ข้างใช้บริการของ "เจมส์ มิลเนอร์" กับ "สจวร์ต ดาวนิง" ขณะที่คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ มีแนวโน้มจะเป็น "จอห์น เทอร์รี" คู่กับ "โจลีออน เลสคอตต์" โดยมี "สตีเวน เจอร์ราร์ด" รับบทกัปตันทีมลงบัญชาเกม

ความน่าจะเป็น  : ถือเป็นบิ๊กแมตช์ของกลุ่มดีในวันนี้เลยทีเดียว จากฟอร์มล่าสุด ฝรั่งเศสดูดีกว่าเยอะ ทั้งศักยภาพของนักเตะและทรงบอล แถมยังไม่แพ้ใครติดต่อกันถึง 21 นัด อีกด้วย ฝรั่งเศสจึงดีกว่านิดๆ ขณะที่อังกฤษต้องอาศัยตัวเก๋าอย่าง เจอราร์ด เทอรี โคลเป็นตัวประคองเกม  และมีตัวทีเด็ดอย่าง เวน รูนี่เป็นหัวหอกสำคัญ 

 อังกฤษต้องยันฝรั่งเศสให้อยู่เพราะฟอร์ม21 นัดยังไม่แพ้ใคร เกมน่าจะเป็นฝรั่งเศสครองบอลได้มากกว่า โดยอาศัยฟรองลิเบอรี่ เป็นตัวทำเกม กระชากลากเลื้อย มีเบนเซมาเป็นตัวทีเด็ด หากอังกฤษหยุดสองตัวนี้ได้เกมน่าจะจบที่เสมอกัน 1:1 แต่หากหยุดไม่อยู่เกมน่าจะเป็นของฝรั่งเศสชนะ 1:0

ยูเครน-สวีเดน (01.45 น.)

สนาม : โอลิมปิก สเตเดี้ยม (เคียฟ)
ผู้ตัดสิน : คูเน็ต คาเคอร์ (ตุรกี)
สถิติที่เคยพบกัน : 3 ครั้ง ยูเครน ชนะ 2 สวีเดน ชนะ 1

ผลงาน 3 นัดหลังสุด :
ยูเครน แพ้ ตุรกี 0-2, แพ้ ออสเตรีย 2-3, ชนะ เอสโตเนีย 4-0
สวีเดน ชนะ เซอร์เบีย 2-1, ชนะ ไอซ์แลนด์ 3-2, ชนะ โครเอเชีย 3-1

เจ้าภาพร่วม ยูเครน ได้เล่นในถิ่นตัวเอง ย่อมมีความได้เปรียบแน่นอน เพราะแฟนบอลชาวยูเครนจะแห่กันเข้ามาชมมากกว่าของคู่แข่งแน่ๆ

ทีเด็ดของเจ้าภาพน่าจะอยู่ที่ "อังเดร เชฟเชนโก" หัวหอกจอมเก๋า เตรียมจับคู่กับ "อาร์เตม มิเลฟสกี้" ดาวยิงที่มาจากทีมดินาโม เคียฟ ด้วยกัน ส่วน "เยฟเฮน โคน็อปเลียนกา" กองกลางตัวรุกจะลงมาสร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูให้ทีม ส่วนตำแหน่งอื่นจะผสมผสานนักเตะของเคียฟและชัคเตอร์ โดเนตส์ก ซึ่งน่าจะทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งมากทีเดียว

ขุนพลไวกิ้ง สวีเดน โชว์ฟอร์มอุ่นเครื่องมาแบบสวยหรูด้วยการชนะรวด 3 นัด มานัดนี้เจอศึกหนักพอสมควร เพราะต้องสู้กับเจ้าภาพ นัดนี้โค้ช "เอริค ฮัมเรน" พอใจชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อ "โยฮัน เอลมันเดอร์" ดาวยิงตัวเก่งหายเจ็บกลับมาซ้อมกับเพื่อนได้แล้วตั้งแต่วันศุกร์ มีลุ้นลงตัวจริงคู่กับ "ซลาตัน อิบราฮิโมวิช" กองหน้าและกัปตันทีมที่สมบูรณ์เต็มร้อย ส่วน "โอลา ตอยโวเนน" ศูนย์หน้าอีกรายก็มีลุ้นลงตัวจริงเช่กัน หากเอลมันเดอร์เป็นตัวสำรอง ส่วนตำแหน่งอื่นของสวีเดนไม่มีปัญหา น่าจะเป็นชุดเดิมกับที่เพิ่งชนะเซอร์เบียในเกมอุ่นเครื่องล่าสุด   
ความน่าจะเป็น : เทียบฟอร์มล่าสุด สวีเดนดูเหนือกว่าเล็กน้อย แต่ในฐานเจ้าภาพ ยูเครนได้เปรียบในเรื่องเสียงเชียร์ ความน่าจะเป็นของเกม ยูเครนได้เปรียบเสียงเชียย่อมทำเกมรุกได้น่ากลัวกว่า แต่ต้องระวังการสวนกลับของสวีเดนให้ดี เจ้าภาพหากยับยั้ง สลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้ เกมสวีเดนที่น่ากลัวคงลดไปเยอะ และฝากความหวังไว้ที่อังเดร เชพเชนโก เป็นตัวทีเด็ด เกมน่าจะจบที่ สกอร์ ยูเครนชนะ 1:0 หรือ เสมอกัน 1: 1

ขอบคุณภาพจาก thairat.co.th

ใครจะชนะ โปแลนด์ vs กรีซ

ใครจะชนะ โปแลนด์ vs กรีซ

วิเคราะห์เกมโปแลน์ vs กรีซ/ ความน่าจะเป็นของเกม

ทีมโปแลนด์เป็นทีมที่มักจะเล่นได้ดีในบ้าน มีโค้ชที่มีประสบการณ์ อย่าง  ฟรานซิสเซ็ค สมูด้า มีประสบการณ์การ

ทำทีมมาพอสมควร เกมนี้น่าจะเปิดเกมรุกได้น่ากลัวเพราะต้องเอาใจแฟนบอล และโปแลนด์ ทีมนี้มีกองหน้าดาวรุ่งอย่าง 

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ น่าจะสร้างเกมรุกได้ดีทีเดียว

ส่วนทีมกรีซ เป็นทีมที่เล่นเหนียวแน่นมีโค้ชอย่าง

แฟร์นันโด ซานโต๊ส  คุมทีมได้ดี เกมรับไว้ใจได้ แต่กรีซยังขาดกองหน้าที่โป้งเดียวปิดบัญชีมีแต่ จอร์จอส ซามาราส จากกลาสโกลเซลติกส์ ที่ยังพอไว้ใจได้

 ซานโตส อาจต้องแพ็คกลางแน่น ๆ รอจังหวะโปแลนด์พลาดโต้กลับงามๆ ได้ 

รูปเกมน่าจะออกมาสูสี แต่โปแลนด์ในฐานะเจ้าภาพจะได้เปรียบนิดๆ หากโปแลนด์ชนะจะไม่เกิน1 ลูก  แต่ถ้าโปแลนด์เจาะไม่เข้ารูปเกมจะเสมอกันไป

ทีมชาติโปแลนด์

ผู้จัดการทีม

 ฟรานซิสเซ็ค สมูด้า วัย 64 ปี เคยเป็นนักเตะทีมชาติโปแลนด์มาก่อน

สตาร์ประจำทีม

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ : กองหน้าวัย 23 ปี จากสโมสร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในศึก บุนเดสลีกา 

ผู้รักษาประตู

หมายเลข 1 : วอจเซียค เซสนี่ (อาร์เซน่อล)

หมายเลข 12 : เกรกอร์ซ ซานโดเมียร์สกี้ (เกงค์)

หมายเลข 22 : เพอร์เซมีสลาฟ ไททัน (พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น)

กองหลัง

หมายเลข 2 : เซบาสเตียน โบนิช (แวร์เดอร์ เบรเมน) 7

หมายเลข 3 : เกรเซกอร์ซ วอจโคเวียค (เลช พอซนัน)

หมายเลข 4 : มาร์ซิน กามินสกี (เลช พอซนัน)

หมายเลข 13 : มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ (อันเดอร์เลชท์)

หมายเลข 14 : ยาคุบ วาวซีเนียค (ลีเกีย วอร์ซอว์)

หมายเลข 15 : เดเมียน แปร์กุยส์ (โซโชซ์)

หมายเลข 20 : ลูคัสซ์ พิซเซ็ค (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)

กองกลาง

หมายเลข 5 : ดาริอุสซ์ ดุดก้า (โอแซร์)

หมายเลข 6 : อดัม มาตุสซ์คซิค (ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ)

หมายเลข 7 : ออยเก้น โพลันสกี้ (ไมนซ์ 05)

หมายเลข 8 : มาเซียจ ไรบัส (เตเร็ค กรอซนี่ย์)

หมายเลข 10 : ลูโดวิช โอบราเนียค (บอร์กโดซ์)

หมายเลข 11 : ราฟาล มูราฟสกี้ (เลช พอซนัน)

หมายเลข 16 : ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด)

หมายเลข 18 : เอเดรียน เมียร์เซเยฟสกี้ (แทร็บซอนสเปอร์)

หมายเลข 19 : ราฟาล โวลสกี้ (ลีเกีย วอร์ซอว์)

กองหน้า

หมายเลข 9 : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)

หมายเลข 17 : อาร์เทอร์ โซเบียช (ฮันโนเวอร์ 96)

หมายเลข 21 : คามิล โกรซิกกี (ซิลวาสปอร์)

ทีมชาติกรีซ

ผู้จัดการทีม

แฟร์นันโด ซานโต๊ส เกิดวันที่ 10 ตุลาคม 1954 ที่กรุงลิสบอน เป็นอดีตนักฟุตบอล และปัจจุบันทำหน้าที่คุมทีมชาติกรีซ 

สตาร์ประจำทีม

จอร์จอส ซามาราส หัวหอก กลาสโกว์ เซลติก เกิดวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1985
 เซลติก เซ็นสัญญากับ ซามาราส เป็นการถาวรหลังจากหมดสัญญายืมตัว และเขาก็คว้าแชมป์สกอตติช ลีก คัพ ในปี 2009, สกอตติช คัพ ในปี 2011 และสกอตติช พรีเมียร์ลีก ในปี 2012 

ชุดแข่งขัน

เดิมทีชุดเหย้าของ กรีซ ใช้เป็นสีน้ำเงิน แต่ภายหลังจากคว้าแชมป์ยูโร 2004 สหพันธ์ฟุตบอลกรีซ ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ชุดเหย้าเป็นสีขาวล้วนแทน ขณะที่ชุดเยือนใช้เป็นสีน้ำเงินล้วน โดยเป็นชุดแข่งขันยี่ห้ออาดิดาส ซึ่งเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนจนถึงปี 2012

23 รายชื่อชุดเตรียมลงศึก ยูโร 2012

ผู้รักษาประตู

หมายเลข 1 : คอสตาส ชาลเคียส (พีเอโอเค)

หมายเลข 12 : อเล็กซานดรอส ซอร์วาส (ปาแลร์โม่ / อิตาลี)

หมายเลข 13 : มิชาลิส ซิฟาคิส (อาริส)

กองหลัง

หมายเลข 2 : จานนิส มาเนียติส (โอลิมเปียกอส)

หมายเลข 3 : จอร์จอส ซาเวลาส (อาแอส โมนาโก / ฝรั่งเศส)

หมายเลข 4 : สเตลิออส มาเลซาส  (พีเอโอเค)

หมายเลข 5 : คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส (ชาลเก้ 04 / เยอรมนี)

หมายเลข 8 : อัฟราม ปาปาโดปูลอส (โอลิมเปียกอส)

หมายเลข 15 : วาซิลิส โตโรซิดิส (โอลิมเปียกอส)

ส่วนสูง/นน. : 185/80  ว/ด/ป เกิด : 10/06/1985

หมายเลข 19 : โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส (แวร์เดอร์ เบรเมน / เยอรมนี)

 หมายเลข 20 : โจเซ่ โฮเลบาส  (โอลิมเปียกอส)

กองกลางหมายเลข 18 : โซติริส นินิส (พานาธิไนกอส)

ส่วนสูง/นน. : 173/69  ว/ด/ป เกิด : 03/04/1990

หมายเลข 6 : กริกอริส มาคอส (เออีเค เอเธนส์)

ส่วนสูง/นน. : 183/78  ว/ด/ป เกิด : 18/01/1987

หมายเลข 9 : นิคอส ลิเบโรปูลอส (เออีเค เอเธนส์)

ส่วนสูง/นน. : 187/82  ว/ด/ป เกิด : 04/08/1975

หมายเลข 10 : จอร์กอส คารากูนิส (พานาธิไนกอส)

ส่วนสูง/นน. : 176/74  ว/ด/ป เกิด : 06/03/1977

หมายเลข 16 : จอร์กอส โฟตาคิส (พีเอโอเค)

ส่วนสูง/นน. : 176/74  ว/ด/ป เกิด : 06/03/1981

หมายเลข 21 : คอสตาส คัตซูรานิส (พานาธิไนกอส)

ส่วนสูง/นน. : 183/81  ว/ด/ป เกิด : 21/06/1979

หมายเลข 22 : คอสตาส ฟอร์ตูนิส (ไกเซอร์สเลาเทิร์น)

ส่วนสูง/นน. : 182/70  ว/ด/ป เกิด : 16/10/1992

หมายเลข 23 : จานนิส เฟตฟัตซิดิส (โอลิมเปียกอส)

ส่วนสูง/นน. : 165/61  ว/ด/ป เกิด : 21/12/1990

กองหน้าหมายเลข 7 : จอร์จอส ซามาราส (กลาสโกว์ เซลติก / สกอตแลนด์)

ส่วนสูง/นน. : 192/86  ว/ด/ป เกิด : 21/02/1985

หมายเลข 11 : คอสตาส มิโตรกลู (อาโตรมิตอส)

ส่วนสูง/นน. : 188/85  ว/ด/ป เกิด : 12/03/1988

หมายเลข 14 : ดิมิตริส ซัลปินกิดิส (พีเอโอเค)

ส่วนสูง/นน. : 172/74  ว/ด/ป เกิด : 18/08/1981

หมายเลข 17 : เธโอฟานิส เกคาส (ซัมซุนสปอร์ / ตุรกี)

ส่วนสูง/นน. : 179/76  ว/ด/ป เกิด : 23/05/1980